หวยออนไลน์ คาสิโนออนไลน์ อัพเดทผลบอลล่าสุด - Zalim-code.com

       ออกสตาร์ทฤดูกาลไป 2 นัด และนัดที่ 3 ของฤดูกาลพรีเมียร์ลีกกำลังทำการแข่งขัน ขณะที่ศึกแดงเดือดซึ่งเป็นส่วนนึงของนัดที่ 3 ในฤดูกาลนี้ก็กำลังจะเริ่มขึ้นด้วย ทว่าก่อนเกมการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้นหนึ่งในนักเตะของผีแดง แมนฯยูไนเต็ด ริโอ เฟอร์ดินานด์ ได้ออกมาแสดงทัศนะเกี่ยวกับทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล คู่ปรับตลอดกาลของแมนฯยู

โดยริโอให้ทัศนะทำนองว่า ลิเวอร์พูลยังไม่ใช่ทีมที่จะมีสิทธิ์ลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ ทีมที่จะได้ลุ้นแชมป์หลังผ่านพ้น 3 นัดแรกของฤดูกาลไปแล้วไม่ว่าผลการแข่งขันเกมแดงเดือดจะออกมายังไง คือ สามทีมอย่าง แมนฯยูไนเต็ด เชลซี แมนฯซิตี้ เท่านั้น

       ส่วนลิเวอร์พูล จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับ สเปอร์ อาร์เซน่อล ที่น่าจะทำได้ดีที่สุดแค่ลุ้นพื้นที่ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก หรือท็อปโฟร์ ก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าริโอ เฟอร์ดินานด์เขาไปเอาความมั่นอกมั่นใจนี่มาจากไหน ถึงได้แสดงทัศนะออกมาอย่างนั้น เพราะแม้ท้ายที่สุดแล้วจะเป็นสามทีมดังที่เขากล่าวจริงๆเท่านั้นที่ได้ลุ้นแชมป์

แต่ทว่าสิ่งที่ริโอได้พูดออกมาแล้ว ณ ตอนนี้ ก็คงสร้างความไม่พึงพอใจให้กับบรรดากองเชียร์เดอะ ค็อป ของทีมลิเวอร์พูล และบรรดาสาวกปืนใหญ่ สาวกไก่เดือยทองอย่างแน่นอน ด้วยการคว้าแชมป์ลีกนั้นนับเป็นความหวัง ความฝันของแฟนบอลทั้งทีม สเปอร์ อาร์เซน่อล ลิเวอร์พุล ด้วยกันทั้งนั้น ที่ผ่านมาในฤดูกาลก่อนๆทีมพวกเขาอาจทำได้ไม่ดีเพียงพอสำหรับการลุ้นแชมป์ แต่นั่นมันก็เป็นสิ่งที่ผ่านไปแล้ว

อย่างไรก็ตามครับสิ่งที่ริโอกล่าวออกมาก็เป็นเพียงทัศนะ หรือความคิดเห็นโดยส่วนตัวของคนเพียงคนนึงเท่านั้น ก็เช่นเดียวกันกับที่นักฟุตบอล หรือคนอื่นๆได้เคยแสดงทัศนะออกมาว่า แมนฯยูไนเต็ดปีนี้จะไม่ได้ลุ้นแชมป์ แต่จะเป็นเพียงเชลซี กับแมนฯซิตี้เท่านั้นที่ได้ลุ้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วสิ่งเหล่านั้นก็หาใช่สิ่งที่จะมากำหนดอนาคตแชมป์พรีเมียร์ลีกจริงๆครับ สิ่งที่จะกำหนดได้มีเพียงสิ่งเดียวคือจำนวนแต้มที่แต่ละทีมเก็บได้ในแต่ละนัดที่ลงทำการแข่งขัน

       ถ้าจะกล่าวถึงสิ่งใดสิ่งนึงที่สวยงาม และน่าชื่นชมในวงการ ฟุตบอล ผมก็คงจะเลือกกล่าวถึงเรื่องของน้ำใจนักกีฬา หรือน้ำใจของนักฟุตบอลแต่ละคนน่ะครับ คือจริงๆในโลกของฟุตบอลนั้นอาจจะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่คนทั่วไปมองว่ามันดูไม่ดีสักเท่าไหร่ เช่น การเข้าปะทะกันที่รุนแรง การเล่นนอกเกม การพุ่งล้ม ฯลฯ แต่นั่นมันก็ไม่ใช่ทั้งหมดของโลกฟุตบอล ทั้งในสิ่งที่หลายคนอาจจะมองไม่ดีเหล่านั้น ก็ยังมีสิ่งดีๆซอนอยู่ในตัวเสมอด้วยละ

       อย่าง เรื่องของการที่นักฟุตบอลคนใดเข้าปะทะกันแบบรุนแรงในเกมการแข่งขัน แต่พอจบการแข่งขันเราก็มักจะได้เห็นนักฟุตบอลเหล่านั้น มาจับไม้จับมือ ขอโทษกัน พูดคุยกัน ซึ่งแสดงให้คนดูอย่างเราๆเห็นว่า น้ำใจนักกีฬานั้นเป็นอย่างไร แถมยังอาจจะทำให้เราได้รู้ด้วยว่า การที่เขาเข้าปะทะกันหนักๆนั้น หาใช่เพราะต้องการทำลายคู่แข่ง หรืออารมณ์โมโหเสมอไป หากแต่มันอาจจะเป็นเพราะความทุ่มเท ความตั้งใจทุ่มสู้เพื่อทีมของตนก็เท่านั้น หรืออย่างในการปะทะกันหนักๆจนถึงขนาดต้องมีนักฟุตบอลคนใดๆบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว เราก็มักที่จะได้เห็นน้ำใจของนักกีฬาฝ่ายตรงข้าม ที่เข้ามาขอโทษ เข้ามาดูอาการ และแสดงความเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น

เคสที่สามารถสื่อให้เห็นน้ำใจนักกีฬาที่ชัดเจนมากๆเลยก็คือ ในเกมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ระหว่าง เชลซี พบ ลิเวอร์พูล ซึ่งมีการปะทะกันหนักโดยไม่ได้ตั้งใจระหว่าง จอห์น เทอร์รี่ ซึ่งเป็นกองหลังและกัปตันทีมเชลซี กับ หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าตัวเก่งของลิเวอร์พูล

ซึ่งการปะทะเป็นลักษณะที่ หลุยส์ ซัวเรซ ล้มลงไปทับช่วงท่อนขาของเทอร์รี่ ทำให้เทอร์รี่บาดเจ็บจนไม่สามารถเล่นต่อได้ แต่ซัวเรซเองก็ไม่ได้นิ่งเฉยกับสิ่งที่เกิดขึ้น ตรงกันข้ามคือแสดงความเป็นห่วงเป็นใย ด้วยการเข้ามาขอโทษและดูอาการของเทอร์รี่จนถึงตอนที่เทอร์รี่ออกจากสนามไป

อีกทั้งในตอนหลังจบเกมการแข่งขันแมทนั้น ซัวเรซก็ได้มีการโพสต์ผ่านสังคมออนไลน์ ในทำนองว่า ขอให้เทอรร์รี่หายไวๆ และหวังว่าอาการของเทอร์รี่จะไม่ได้รุนแรง ก็ต้องบอกว่าน่าชื่นชมมากๆเลยครับสำหรับน้ำใจนักกีฬาของ หลุยส์ ซัวเรซ

       อาจจะกลายเป็นแข้งที่สร้างสถิติย้ายมาร่วมทีมแบบไม่ได้ลงเล่นให้ต้นสังกัดใหม่สักเกมเดียว แต่ต้องย้ายออกจากทีมซะแล้วสำหรับ อเล็กซานเดร ปาโต้ หัวหอกบราซิเลี่ยนตัวยืมของสิงห์บลู เชลซี ยอดทีมแห่งกรุงลอนดอน อังกฤษ

       เพราะล่าสุดมีรายงานข่าวออกมาจากสื่อในดินแดนแซมบ้า "แลนซ์" บ้านเกิดของนักเตะแล้วว่า ณ ตอนนี้สโมสรเศรษฐีแห่งกรุงลอนดอน กำลังเตรียมที่จะถกอนาคตของแข้งรายนี้เพื่อนำไปสู่การยกเลิกสัญญายืมตัว ที่ทำไว้กับทางโครินเธียนส์ ต้นสังกัดที่แท้จริงของนักเตะเมื่อตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมา

       ด้วยเหตุว่าช่วงที่ผ่านมานักเตะหมดเวลาไปกับการเรียกสภาพความฟิตของร่างกายมากเกินไป ซึ่งนับถึงตอนนี้ก็กว่าสองเดือนครึ่งเข้าไปแล้วที่นักเตะยังไม่พร้อมลงสนามให้กับทีมเลย

       อีกทั้งพวกเขายังมองว่าต่อให้นักเตะจะพร้อมกลับมาคืนสนามในช่วงท้ายๆของซีซั่นนี้ ก็ไม่น่าจะช่วยสร้างสรรค์ความแตกต่างให้กับผลงานของทีมได้แต่อย่างใด

       อย่างไรก็ตามในเวลาเดียวกัน กุส ฮิดดิ้งก์ กุนซือทีมสิงห์บลุก็ได้ออกมากล่าวอัพเดทสถานการณ์ของนักเตะด้วยว่า เวลานี้ใกล้ที่จะพร้อมลงสนามแล้ว แต่เรื่องจะลงเล่นเต็มเกมนั้นยังเป็นไปไม่ได้ โดยตัวเขานั้นตั้งใจจะส่งนักเตะลงสนามไปสัมผัสเกมบ้างในเร็วๆนี้

        ดังนั้นก็ต้องมารอลุ้นกันดูว่าที่สุดแล้วการเจรจายกเลิกสัญญายืมตัวจะเกิดขึ้นก่อนหรือเปล่า หรือจะมีโอกาสได้เห็น ปาโต้ ลงสนามในสีเสื้อของสิงห์บลูสักหนึ่งเกมฝากไว้ให้เป็นความประทับใจเล็กๆของแฟนบอลสิงห์บลู

       ส่วนข่าวคราวเกี่ยวกับอนาคตของแข้งรายอื่นๆของทีมสิงห์บลูช่วงนี้ก็มีในรายของ ราดาเมล ฟัลเกา ที่ล่าสุดสื่อตีข่าวออกมาว่าได้ปฏิเสธข้อเสนอเงินก้อนโตของทีมจากลีกจีน เพื่ออยู่กับทีมสิงห์บลูต่อไปจนครบสัญญา แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะถือว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงกับการเล่นให้สิงห์บลูก็ตาม

       ก็ไม่รู้ว่างานนี้ทางด้านของเอวีบี กุนซือรูปหล่อเกิดนึกเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรแทนทาง โจเซ่ มูริญโญ่ หรือว่ายังฝังใจกับการที่เคยถูกทางเชลซีปลดลงจากตำแหน่งเหมือนกันนะ

       ล่าสุดเจ้าตัวถึงได้ออกมากล่าวเชิงโจมตีเสี่ยหมี โรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีมชาวรัสเซียของทีมสิงห์บลู เชลซี ว่าติดนิสัยชอบไล่โค้ช

       สำหรับ เอวีบี อังเดร วิลลาส-โบอาส นั้นเมื่อปี 2011 เจ้าตัวถือได้ว่าเป็นกุนซือหนุ่มไฟแรงที่มีโอกาสสร้างชื่อใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อได้โอกาสคุมทีมสิงห์บลูหลังก่อนหน้านั้นสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมไว้กับทีม เอฟซี ปอร์โต้ ทีมดังในลีกโปรตุเกส

       กระทั่งได้รับการกล่าวขานถึงทั้งวงการ แต่ทว่าผลงานการทำทีมสิงห์บลูใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นแรกกลับออกมาไม่เป็นใจ โดยเจ้าตัวมีปัญหาในการคอนโทรลนักเตะบิ๊กเนมในทีมหลายรายด้วยกันที่สุดแล้วจึงโดน โรมัน อับราโมวิช สั่งปลดอย่างไม่ใยดี ทั้งที่ทำงานได้ไม่ครบเทอม

       กระนั้นแม้ว่าโบอาสจะมีโอกาสได้พิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งกับทีม ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส แต่ผลงานของเจ้าตัวก็ยังไม่ดีเหมือนเดิม จนสุดท้ายแล้วก็ต้องบอกลาพรีเมียร์ลีกไป และปัจจุบันทำทีม เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ในลีกสูงสุดของรัสเซีย

       อย่างไรก็ตามโบอาสได้ออกมากล่าวแสดงความเห็นถึงเสี่ยหมี และทีมเชลซีต่อกรณีการสั่งปลดมูริญโญ่ในซีซั่นนี้ว่า

       "มันเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อไหมล่ะโค้ชทุกคนที่ทำเชลซีถูกปลดออกจากตำแหน่ง และครั้งล่าสุดมันเกิดกับโค้ชที่ดีที่สุดของพวกเขา โค้ชที่เป็นที่รักของแฟนบอล สามารถพาทีมประสบความสำเร็จได้มากสุดในประวัติศาสตร์สโมสรจะบอกให้ว่าเขาไม่เปลี่ยนไปเลย โรมันยังทำตัวเหมือนเดิมเขาปลดผม และสั่งปลดทุกคนเช่นเดียวกับที่ราฟาโดน มูริญโญ่โดนแล้วตอนนี้เขาก็กำลังเริ่มต้นกับรายใหม่อีกครั้ง"